เอาจริงซะที!! "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ.สั่งคลังขึ้นแบล็คลิสต์" บริษัททิ้งงานป้องกันความเสี่ยงปชช.

9 พ.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัตร ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2560-2564 โดยแผนดังกล่าวจัดทำให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี และแผนพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 รวมทั้งให้มีแผนงานโครงการที่สอดรับกับการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพื่อให้เกิดการบูรณาการการคุ้มครองผู้บริโภคทุกภาคส่วน อย่างเป็นระบบ มีมาตราฐาน มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน โดยมี 5 ยุทธศาสตร์คือ 1.พัฒนาระบบและกลไกคุ้มครองผู้บริโภค 2.พัฒนาระบบฐานข้อมูล 3. พัฒนาองค์ความรู้และการสื่อสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค 4.พัฒนาศักยภาพเครือข่าย และ 5.ส่งเสริมการบูรณาการการคุ้มครองผู้บริโภค

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์การทำงานของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม นำแผนงานไปพิจารณา เพื่อออกระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน เพื่อให้แผนยุทธศาสตร์เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังได้สั่งการไปยังนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ประสานกับองค์กรด้านการต่อต้านการทุจริต และกรมบัญชีกลางที่มีรายชื่อบริษัทที่ละทิ้งงาน ทุจริต ประพฤติมิชอบ ฯลฯ ที่มีกว่า 700 แห่ง และตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาให้ประชาชนในการประกอบการตัดสินใจ ป้องกันความเสี่ยงที่จะจ้างงานบริษัทที่ไม่มีประสิทธิภาพ

“และการคุ้มครองผู้บริโภค นายกฯ อยากให้เน้นครอบคลุมทุกกิจการ ไม่ใช่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น กรณีเรื่องการบิน ที่มีประชาชนร้องเรียนมากพอสมควร ว่าเวลาที่ขึ้นเครื่องบินแล้วไปถึงสนามบินช้ากว่ากำหนด บางสายการบินก็จะตัดสิทธิ์ เพราะจะต้องตรวจสอบผู้โดยสารเพื่อความมั่นใจ แต่เวลาสายการบินเหรด เสียเวลา ล่าช้า ซึ่งบางทีกว่าครึ่งชั่วโมงถึง 3 ชั่วโมง แต่ที่ได้รับก็คือการขอโทษผู้โดยสารอย่างจริงใจ ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอ ทั้งหมดนี้ สคบ.จะต้องไปดูรายละเอียดและประสานกับกระทรวง ทบวง กรม ว่าการขอโทษนั้นเพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ที่มา : matichon